ผู้หญิงแม้จะเป็นวัยทำงาน วัยผู้ใหญ่ วัยเกษียญ ล้วนต้องดูดีอยู่เสมอ ยิ่งอายุมากขึ้นยิ่งมีความต้องการเสื้อผ้าที่สวมใส่สบาย ระบายอากาศดี มีสัมผัสที่นุ่ม ไม่ระคายเคืองผิว ดูดีและสุภาพ สามารถสวมใส่ได้หลายโอกาส แต่ลูกค้าหลายท่านอาจจะเคยได้รับประสบการณ์ที่ไม่ดีในการใส่ยีนส์ จึงเลิกใส่ยีนส์ไป อาทิ ซื้อมาแล้วต้องนำมาตัดขา ต้องนำมาแก้ไขทรงกางเกง และด้วยธรรมชาติของผ้ายีนส์ จะมีความแข็ง อึดอัด ใส่ได้ไม่กี่ครั้งก็ใส่ไม่สวยแล้ว เราจึงคิดและพัฒนาสินค้าเราอยู่เสมอให้แก้ปัญหาเหล่านี้ของลูกค้าได้ โดยงานที่วางจำหน่ายจะต้องสมบูรณ์แบบ 100% ตามมาตรฐานของเราเท่านั้น

Bearbeary or our nickname “Jeans pee mee” was created from the person who love to wear a jeans and found problem that not every jean suite her body such as bigger size , too long legs and it has to be fix after she bought it. The main reason is every jeans brand design a general pattern for worldwide market.

ย้อนกลับไปเมื่อปี พ.ศ.2559 ปีที่เป็นยุคทองเริ่มต้นของตลาดออนไลน์ในบ้านเรา โดยเฉพาะใน Facebook ซึ่งมีทั้งแม่ค้าออนไลน์ และแบรนด์ต่างๆ ที่เริ่มเข้ามาทำการตลาด โดยมีความเชื่อที่ว่า “สินค้าที่ขายดีต้องราคาถูก” จึงทำให้เราถูกบังคับให้ใช้ของถูกโดยอัตโนมัติ เพราะน้อยนักที่ผู้ผลิตจะลงทุนใช้วัตถุดิบที่มีราคามาผลิตสินค้า “แม่ไก่” ซึ่งเป็นเจ้าของแบรนด์และออกแบบ เริ่มจากการขายของออนไลน์ในขณะนั้น มีความชอบ และหลงใหลในยีนส์ตั้งแต่มัธยมจนถึงมหาลัย เพราะสามารถใส่ง่าย ใส่ไปเรียน ใส่ไปเที่ยว ใส่เดินทาง ใส่ได้ทุกที่ ประหยัดเพราะสามารถใส่กับเสื้อได้หลายแบบ ได้พบกับยีนส์แบรนด์หนึ่งที่มีเนื้อผ้าที่กระชับ นุ่ม ใส่สบาย แต่ขนาดและสัดส่วนนั้นไม่พอดีและเป็นที่พอใจ ประกอบกับเคยเรียนตัดเย็บเสื้อผ้ามาบ้างจึงมีความรู้ในด้านนี้ จากนั้นได้ตั้งใจว่าอยากสร้างยีนส์ที่มีเนื้อผ้าที่ดี ใส่แล้วดูดี สวมใส่สบาย แต่มี pattarn ที่เหมาะกับผู้หญิงไทย ตั้งใจว่าจะเสนอขายให้กับลูกค้าเก่าก่อน

โดยเนื้อผ้าในขณะนั้นเป็นผ้าจากแบรนด์ Lycra ซึ่งทราบภายหลังว่าเป็น แบรนด์เส้นใยระดับโลก จึงเริ่มหาข้อมูลและหาโรงงานเพื่อผลิตยีนส์รุ่นแรก ซึ่งต้นทุนที่สูงมากเมื่อเทียบกับราคาในตลาดตอนนั้น “เริ่มแรกก็กังวลอยู่ว่าทำออกมาแล้ว จะมีลูกค้าสนใจไหม?” เพราะด้วยความที่แบรนด์พี่หมียังไม่เป็นที่รู้จัก และมีราคาที่สูง ประกอบกับ แม่ไก่ขายทางออนไลน์ ลูกค้าไม่ได้จับ ไม่ได้ลอง สินค้า แต่ปรากฏว่าที่สั่งผลิตมา 100 ตัวขายได้ในเวลาไม่ถึง 1 อาทิตย์ หลังจากนั้นลูกค้าก็กลับมารีวิวแบบถล่มทลาย เกินความคาดหมายไปมาก จากผลิตหลักร้อย เริ่มเป็นหลักพัน หลักหมื่น “จนลูกค้าหลายคนบอกต่อ แนะนำมากขึ้นเรื่อยๆ” จนเกิดวลีเด็ดที่ลูกค้าตั้งให้เราจนเรานำมาทำสโลแกนของแบรนด์คือ “ผู้สวมใส่เท่านั้นที่จะรู้”